เอ่ยถึงความสำคัญ หน้าที่ของคุณแม่มาก็มาก ในโอกาสที่ใกล้วันพ่อ ทีมงานจึงขอนำบทความดี ๆ จากสำนักส่งเสริมสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาฝากกันค่ะ ถึงบทบาทและความสำคัญของการเป็นพ่อที่ดี
พ่อ หรือผู้ที่ทำหน้าที่เป็นพ่อมีความสำคัญต่อพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจของ เด็กเป็นอย่างมาก สำหรับลูกชาย พ่อคือแบบฉบับของการเป็นผู้ชาย เป็นพ่อ เป็นสามี เด็กผู้ชายมักจะเลียนแบบพ่อของตัวเอง ไม่ว่าด้านดีหรือไม่ก็ตาม
ส่วนเด็กผู้หญิง พ่อคือแบบฉบับของผู้ชายทุกคนในโลกนี้ เวลาเธอเติบโตเป็นสาวและเริ่มคบหาเพศตรงข้าม อิทธิพลจากความสัมพันธ์ที่เธอมีกับพ่อมีบทบาทมากทีเดียว
หลาย คนมองข้ามความสำคัญของพ่อไป แต่ที่จริงแล้ว พ่อให้ความรู้สึกที่สมหวังและพึงใจได้มากมาย พ่อมีอิทธิพลต่อพัฒนาการของเด็กแรกเกิดอย่างที่เรานึกไม่ถึง พ่อควรจะมีบทบาทในการเลี้ยงลูกโดยตรงมากขึ้น โดยไม่ใช่มีหน้าที่เพียง "หาเงิน" มาซื้อนมให้ลูกกินเพียงอย่างเดียว ปล่อยให้ภาระการเลี้ยงลูกอ่อนเป็นของแม่
การที่พ่อสัมผัสถูกเนื้อต้องตัวลูกอย่างรักใคร่ทะนุถนอม มักจะช่วยให้ลูกมีความรู้สึกผูกพันกับพ่ออย่างลึกซึ้งเมื่อแกโตขึ้น และไม่ควรมีเหตุผลหรือข้ออ้างใด ๆ ที่พ่อจะเอาใจใส่ และเลี้ยงลูกอย่างที่แม่ทำไม่ได้ เพราะทุกวันนี้ พ่อและแม่ต่างก็หาเงินมาเลี้ยงลูกด้วยกัน ทั้งสองคนก็น่าจะช่วยกันเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน ดูแลทุกข์สุขให้กับลูกเท่า ๆ กัน
1. ช่วยภรรยาเลี้ยงลูก ในอดีตภาระหน้าที่การเลี้ยงดูลูกเป็นความรับผิดชอบของแม่แต่เพียงผู้เดียว แต่ปัจจุบันเมื่อสังคมเปลี่ยนไป แม่มิได้ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นหญิงทำงานอีกด้วย พ่อจึงต้องแสดงบทบาทของความเป็นพ่อในการดูแลและพัฒนาลูกไปพร้อม ๆ กับแม่ คุณพ่อยุคใหม่จึงต้องชงนม ป้อนข้าว ป้อนน้ำ อาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม กล่อมลูกนอน เล่นกับลูกได้
2. อบรมสั่งสอนลูกโดยความเป็นเพศชาย พ่อโดยทั่วไปคือตัวแทนของอำนาจในบ้าน มีลักษณะเด็ดขาด จึงเป็นบุคคลที่จะสร้างวินัยแก่ลูกได้ดีที่สุด และคอยดูแลให้ลูกปฏิบัติตามกฎอย่างสม่ำเสมอ เมื่อลูกเติบโตขึ้น เขาจะเป็นคนที่มีวินัย สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ดี การอบรมสั่งสอนของพ่อที่ดีที่สุดคือพ่อต้องทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น เพราะเด็ก ๆ นั้นจะไม่ทำตามที่ผู้ใหญ่พูด แต่จะทำตามตัวอย่างที่เห็นนั่นเอง
3. เป็นหลักประกันความมั่นคงปลอดภัย ด้วยสรีระของพ่อที่แข็งแรง ลูก ๆ จะรู้สึกว่า มีผู้ที่มีความสามารถเก่งกล้าอยู่ในบ้าน ทำหน้าที่ให้ความคุ้มครองป้องกันภัยอันตราย ทำให้ลูกมีความอบอุ่นมั่นคง
4. เป็นหัวหน้าครอบครัว พ่อมีหน้าที่หลักในการรับผิดชอบเลี้ยงดูภรรยาและลูกให้มีความสุขตามอัตภาพ พ่อจึงต้องขวนขวายทำงานหารายได้ไว้จับจ่ายใช้สอยในครอบครัวและยามฉุกเฉิน
5. เป็นผู้สร้างความเข้มแข็งในจิตใจของลูก หากลูกได้มีเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับพ่อ ได้รับการกอดสัมผัสจากพ่อตั้งแต่วัยเยาว์ ลูกจะมีความรู้สึกประทับใจในตัวพ่อ และยึดพ่อไว้เป็นแกน แต่ถ้าชีวิตของพ่อขาดแก่นสาร ขาดความเป็นผู้นำ ไม่มั่นคง ครอบครัวก็ระส่ำระสายรวนเร จิตใจของลูกก็ขาดที่ยึดเหนี่ยม จึงอ่อนแอและเปราะบางง่าย
6. เป็นแบบอย่างของความเป็นชายให้ลูกได้ลอกเลียนแบบในช่วงอายุ 3 - 6 ปี ในการเลียนแบบความเป็นชายพัฒนามาจากการที่เด็กชายได้สัมผัสใกล้ชิดกับพ่อ เห็นบทบาทความเป็นชายของพ่อที่ถูกต้อง เด็กชายจะเกิดการอยากเอาอย่างพ่อ มีความประพฤติทางเพศที่เหมาะสม ดังนั้นพ่อจึงต้องให้ความเป็นเพื่อน เป็นที่พึ่งพาของลูกชาย
ถ้าพ่อกับลูกชายห่างเหินกัน ขาดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ชอบดุด่าเฆี่ยนตี อีกทั้งไม่เอาใจใ่ส่รับผิดชอบครอบครัว ก็จะทำให้ลูกชายไม่ศรัทธาในตัวพ่อ ไม่อยากเอาอย่างพ่อ เติบโตขึ้นมาด้วยความรู้สึกเกลียดพ่อ รักแม่เลียนแบบแม่ จึงมีความประพฤติทางเพศที่ไม่เหมาะสม มีพฤติกรรมบางอย่างคล้ายผู้หญิง หรือมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ
ในขณะเดียวกัน พ่อก็เป็นผู้สร้างทัศนคติที่ดีต่อผู้ชายให้กับลูกสาวด้วย โดยพัฒนาจากความสัมพันธ์ที่ดี ความอบอุ่นที่ได้รับจากพ่อ เมื่อโตขึ้น ลูกสาวจะไม่นึกรังเกียจเพศตรงข้ามที่จะมาแต่งงานด้วย แต่ถ้าพ่อห่างเหินลูกสาว และมีลักษณะก้าวร้าวทารุณต่อแม่และลูกสาว เมื่อโตขึ้น ลูกสาวอาจเกลียดผู้ชาย และกลัวการแต่งงานได้