อาการปวดท้องประจำเดือน แบบไหนที่ควรไปพบแพทย์
การมีประจำเดือนเป็นธรรมชาติของสตรีที่เข้าสู่วัยเจริญพันธ์ เมื่อเริ่มมีประจำเดือนผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีอาการปวดท้องขณะมีประจำเดือน บางคนคิดว่าอาการปวดนั้นเป็นสิ่งธรรมดาที่เกิดขึ้นระหว่างมีประจำเดือน งั้นวันนี้เรามาดูกันว่าอาการปวดท้องประจำเดือนแบบไหนที่เรียกว่าปกติและแบบไหนที่เรียกว่าผิดปกติ
อาการปวดท้องประจำเดือนปกติ
จะปวดประจำเดือนไม่มากแค่พอรำคาญ แต่ไม่ปวดจนรู้สึกว่าทรมานหรือทนไม่ไหว อาการจะเริ่มเป็นวันที่ 1-2 ของการมีประจำเดือน ไม่ถึงกับต้องรับประทานยาแก้ปวดอาการจะหายไปเอง ภายใน 1-2 วัน ในกรณีมีเพศสัมพันธ์แล้ว จะไม่มีอาการเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
อาการปวดประจำเดือนที่ผิดปกติ และควรไปพบแพทย์
- มีอาการปวดประจำเดือนมาก โดยช่วงที่ปวดประจำเดือนแรกๆอาจพอทนไหว แต่ต่อมาอาจเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นทุกเดือน และมักจะรู้สึกปวดรุนแรงในช่วง 1-2 วันแรกของการมีประจำเดือน
- ปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรงจนต้องทานยาแก้ปวด มากกว่าวันล่ะ 1 ครั้ง หรือเคยต้องฉีดยาแก้ปวดมากกว่า 1 ครั้ง
- ขณะมีประจำเดือนมีอาการปวดท้องอยากถ่ายอุจจาระ ปวดมวนื้องหรือไปถ่ายอุจจาระแต่ไม่มีอุจจาระอออกมา
- ปวดและกดเจ็บตรงบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง และมักมีอาการปวดร้าวลงมาที่ช่องคลอดข้างเดียวกัน หรือปวดร้าวไปที่ขา
- ปวดประจำเดือนมากร่วมกับการมีเลือดออกกระปริบกระปรอย หรือประจำเดือนมามากกว่าปกติ ในบางราย อาจมามากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
- มีอาการปวดท้องขณะมีเพศสัมพันธ์
ปวดประจำเดือนที่ผิดปกติ เป็นโรคอะไรได้บ้าง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกมดลูก
- ซ๊อกโกแลตซีสต์
- เลือดออกในอุ้งเชิงกราน
- ผังผืดในอุ้งเชิงกราน
- เนื้องอกของรังไข่
- ติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- ปีกมดลูกอักเสบ
- นิ่วในท่อไต
- ใส้ติ่งอักเสบ
- มะเร็งลำใส้ใหญ่
อาการปวดท้องประจำเดือนที่ผิดปกติเป็นสัญญานของความผิดปกติที่สามารถบ่งบอกถึงภาวะสุขภาพของผู้หญิงได้เป็นอย่างดี บางโรคอาจส่งผลถึงภาวะมีบุตรยาก ดังนั้นหากคุณผู้หญิงมีอาการปวดท้องประจำเดือนที่ผิดปกติไปจากเดิม ไม่ควรนิ่งนอนใจ ให้รีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ ตรวจอัลตร้าซาวน์ ของมดลูกและรังไข่จะได้รับการรักษาได้ตรงจุด และมีสุขภาพที่ดีขึ้น
บทความโดย นพ.มฆวัน ธนะนันท์กูล
แพทย์ผู้เชี่นวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธ์และการผ่าตัดส่องกล้องทางสูตินรีเวช